หลุมอากาศเกิดขึ้นได้ยังไง?

หลุมอากาศ ทุกคนต้องเคยเจอเวลานั่งเครื่องบิน เป็นปรากฏการณ์ที่เครื่องบินสั่นไหวแรงกว่าปกติ หรือ ให้ความรู้สึก “ตกวูบ” เป็นช่วงสั้นๆ นี่แหละครับคือหลุมอากาศ  ว่าแต่อากาศที่คงที่ในชั้นบรรยากาศทำไมถึงเกิดหลุมได้ เพราะดูทรงแล้วก็เป็นอากาศเฉยๆไม่น่ามีอะไรทำให้เป็นรูได้เหมือนกับวัตถุถูกไหมครับ ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน จึงได้ไปหาคำตอบมาเรียบร้อยแล้ว หลุมอากาศ คืออะไร? คือบริเวณที่อากาศมีการ เปลี่ยนแปลงความเร็วหรือทิศทางอย่างรวดเร็ว ครับ มันไม่ได้เป็นหลุมหรอก แต่มันคือ “อากาศที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน” ทำให้มวลที่เคยเป็นก่อนหน้า กลายเป็นมวลใหม่ และเครื่องบินของเราก็ไปเจอกับจังหวะนั้นพอดิบพอดี โดยส่วนมากแล้วหลุมอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงทางอากาศอย่างฉับพลันมักจะเกิดขึ้นเวลาที่เราบินผ่านก้อนเมฆที่มีประจุมหาศาล หนักกว่า 1,000,000 กิโลกรัมครับ หลุมอากาศเกิดจากอะไร? ความต่างของอุณหภูมิในชั้นบรรยากาศ อากาศร้อนเบากว่า → ลอยขึ้น อากาศเย็นหนักกว่า → จมลง  ถ้าเครื่องบินบินผ่าน “เขตรอยต่อของอากาศร้อนเย็น” → เกิดการสั่นไหว ก็ทำให้เกิดหลุมอากาศได้ทันที ลมแรง / Jet Stream เครื่องบินบินชนกระแสลมแรงที่วิ่งเร็วมากในชั้นสูง อากาศแปรปรวนทันที → ทำให้เครื่องสะดุ้งหรือเอียง ภูเขา / พื้นที่ต่างระดับ ถ้าบินผ่านภูเขาหรือพื้นที่ภูมิประเทศเปลี่ยน → ลมจะไหลวกวน …

ปรากฏการสายฟ้า ผ่าขึ้นฟ้า Jet lightning เกิดขึ้นได้ยังไง?

Jet Lightning ปรากฎการสายฟ้าที่ผ่าขึ้นฟ้า ไม่ได้ผ่าลงไปเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ในสภาพอากาศที่มีพายุฝนและมีการเคลื่อนที่ของอากาศในแนวตั้งที่สูงมากครับ เอาง่ายๆว่าถ้านั่งอยู่หน้าบ้านกำลังเล่นหวยไวอยู่เพลินๆบนเว็บถูกกฎหมาย แล้วเจอแบบนี้แนะนำเข้าบ้านก่อนเลยครับ โดยลักษณะของสายฟ้านี้จะเกิดขึ้นจากการปลดปล่อยพลังงานในชั้นบรรยากาศในลักษณะที่ต่างจากสายฟ้าปกติที่เราคุ้นเคย ซึ่งจะผ่าจากก้อนเมฆลงสู่พื้นดิน ในกรณีของ Jet Lightning สายฟ้าจะเกิดขึ้นจากเมฆฝนที่มีการเคลื่อนที่สูงขึ้นไปในบรรยากาศและผ่าขึ้นไปยังชั้นบนของอากาศสูงมากกว่า 10 กิโลเมตร (บางครั้งอาจถึง 20 กิโลเมตรขึ้นไป) การเกิด Jet lightning การเคลื่อนที่ของอากาศในชั้นบรรยากาศ: ในระหว่างที่เกิดพายุฝน, อากาศที่อบอุ่นจากพื้นดินจะถูกพัดขึ้นไปในท้องฟ้า ซึ่งทำให้เกิดการไหลของอากาศในแนวตั้งอย่างรุนแรง (convection). อากาศอบอุ่นที่ถูกพัดขึ้นไปจะนำพาความชื้นและพลังงานขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ ซึ่งในบางครั้งจะไปชนกับอากาศที่เย็นกว่าที่อยู่ในระดับสูง การเกิดการแยกประจุไฟฟ้า: ในขณะที่เมฆฝนพัฒนาและก่อตัวขึ้น, เกิดการแยกประจุไฟฟ้าภายในเมฆ เมฆมักจะมีประจุบวกสะสมอยู่ที่ด้านบนและประจุลบสะสมอยู่ที่ด้านล่าง เมื่อความแตกต่างของประจุไฟฟ้าในเมฆสูงพอ สายฟ้าจะเกิดขึ้นระหว่างจุดต่างๆ ในเมฆหรือระหว่างเมฆกับพื้นดิน การผ่าขึ้นฟ้า: โดยปกติสายฟ้ามักจะผ่าลงสู่พื้นดิน แต่ในกรณีของ Jet Lightning หรือที่บางครั้งเรียกว่า Upper Atmospheric Lightning (สายฟ้าที่เกิดในชั้นบรรยากาศสูง), สายฟ้าจะผ่าจากจุดหนึ่งในเมฆขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศสูง เช่น ชั้นโอโซนหรือไอโอโนสเฟียร์ (ionosphere) ซึ่งเป็นชั้นของบรรยากาศที่มีประจุไฟฟ้า การปล่อยพลังงานในระดับสูง: เมื่อเกิดการปลดปล่อยพลังงานจากการแยกประจุไฟฟ้าในเมฆที่สูงมากๆ จะทำให้เกิดสายฟ้าผ่าขึ้นไปในท้องฟ้าและสามารถเห็นได้เป็นแสงสว่างที่สว่างวาบในท้องฟ้า ซึ่งแสงนั้นมักจะมองเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับเส้นแสงที่ผ่าขึ้นไปในฟ้าหรือท้องฟ้าสีฟ้าสว่าง Jet Lightning …